แมนเชสเตอร์

แมนเชสเตอร์ 4-3 ลิเวอร์พูล (AET) เกมแดงเดือดสุดมัน ผีดับหงษ์ ร่วง เอฟเอคัพ 

“ผีแดง” แมนเชสเตอรยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในช่วงหลังเวลาของศึกแดงเดือด เอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะที่คะแนน 4-3 เต็มไปด้วยความมันส์มากที่สุด โดยมี ผลบอล สุดท้ายเป็น 2-2 ในเวลาปกติและต่อเวลาตามคะแนนมาเป็น 4-3 ได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไปในที่สุด 

การแข่งขันสุดมันส์ในเกมนี้ของทั้งสองทีมเริ่มจากช่วงแรกของการแข่งขัน โดยทั้งสองฝ่ายสลับกันนำและสู่กันอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ยังคงเป็นความท้าทายต่อทั้งคู่ ด้วยการเสียประตูก่อนของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่ก็พลิกเกมสู่ดีเสมอด้วยการทำประตูสองครั้งมาสู่ช่วงต่อเวลา 

แม้เสมอเวลาแล้วก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่ในที่สุด อาหมัด ดิยัลโล่ ทำประตูชัยในนาทีที่ 120+1 เพื่อให้ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป ซึ่งจะเป็นเรื่องที่จะต้องจำไว้ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยูโรปีส์ในปีนี้ 

แมนเชสเตอร์ VS ลิเวอร์พูล  ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย 

ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่น่าตื่นเต้นและลุ้นมากที่สุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านเฉือน  “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 

เกมเริ่มต้นอย่างเมามันส์เมื่อทั้งสองทีมเข้าสู่การชิงช่วงต้นโดยมีโอกาสแลกกันอย่างดุเดือด ในนาทีที่ 10 แฟนบอลของทีมเจ้าบ้านได้เรียกความลุ้นนระทึกเมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่งบอลเข้าให้กับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ซึ่งตั้งจากด้านซ้ายแล้วผลัดข้างในไปด้วยขวา แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ป้องกันได้อย่างดี แม้ว่า สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จะพยายามยิงซ้ำ  แมนเชสเตอร์ซิตี้  ก็ยังอยู่นำด้วยคะแนน 1-0 

เกมเริ่มต้นของทั้งสองฝ่ายยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้น โดยทั้งสองทีมมีโอกาสที่เป็นไปได้มากในการทำประตู แต่ไม่มีทีมใดทำได้จนทำให้คะแนนเปลี่ยน ในนาทีที่ 35 มาร์คัส แรชฟอร์ด เตะบอลไปถึงสุดเส้นด้านซ้าย ก่อนที่จะส่งให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้พยายามยิงเข้าเขต แต่เคลเลเฮอร์ รับบอลได้อย่างมืออาชีพ 

ในนาทีที่ 36 หลุยส์ ดิอาซ ของลิเวอร์พูล ได้เตะบอลเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะส่งให้ โอนาน่า และต่อมาได้ประตูเสมอจากท่าเดียวกันของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งทำให้เกมเปลี่ยนสถานการณ์เป็น 1-1 

เกมยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดในครึ่งหลังเช่นเดิม แม้ว่าผู้เล่นจะรู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายมีโอกาสที่จะทำประตูได้ ในนาทีที่ 2 ของครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะและนำหน้าด้วยคะแนน 2-1  

ครึ่งหลังของเกมเป็นเวลาที่ทั้งสองทีมกำลังมุ่งมั่นและอาจจะเรียกร้องการทำประตูอย่างดุเดือด ในนาทีที่ 56 โดมินิค โซบอสซ์ไล ของ แมนเชสเตอร พยายามยิงจากที่ไกล แต่ผลลัพธ์ไม่สำเร็จ 

ในนาทีที่ 63 ดาร์วิน นูนเญซ ของลิเวอร์พูล กระชากบอลหนี ราฟแอล วาราน แล้วกดด้วยซ้ายยัดเสาแรก โอนาน่า ต้องออกแรงปัดบอลออกหลังช่วยแมนยูเอาไว้ได้อีกครั้ง 

ด้วยความพยายามและมุ่งมั่นของ แมนยู พยายามกลับมาให้โอกาสตัวเอง ในนาทีที่ 2 ของครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้ลิเวอร์พูล ชนะเกมด้วยคะแนน 2-1 และได้ผ่านไปยังรอบต่อไปของการแข่งขันเกมใหญ่นี้   

เกมเข้าสู่นาทีที่ 87 แมนเชสเตอร์ซิตี้ สามารถเทียบคะแนนเป็น 2-2 จากการที่การ์นาโช่ เลี้ยงบอลไปในบริเวณรอบโซนกองหลังของลิเวอร์พูลในเขตโทษ แม้ว่าบอลจะมีการเปลี่ยนเส้นทางแต่ก็สามารถเข้าไปยิงด้วยเท้าขวา และเสียบลูกเข้ามุมได้ 

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสในการทำประตูเพิ่มเติมเมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ด เข้าเขตโทษเอง แต่จบด้วยการยิงที่ผิดเป้าไปนิดหนึ่ง ทำให้เกมยังคงเสมอกันที่ 2-2 และต้องเข้าสู่รอบต่อไปของการแข่งขัน 

ในช่วงต่อเวลา นาทีที่ 100 อเลฮานโดร การ์นาโช่ ทำให้วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ มากดเต็มที่ในเขตโทษ แต่ลูกบอลสามารถถูกกันไว้ เข้าตาข่ายแทน 

นาทีที่ 105 ลิเวอร์พูลได้เปิดโอกาสการทำประตูด้วยการสับเหยาะจากฝ่ายหน้าเขตโทษ และคริสเตียน อีริคเซ่น ทำให้เข้าไปด้วยเท้าของเขา ทีมลิเวอร์พูลได้นำประตูสู่ 3-2 

นาทีที่ 111 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ยอมทน และสามารถทำประตูเสมอได้ด้วยการที่ นูนเญซ ให้ลูกบอลหลุดออกมาจากบริเวณรอบโซนกองหลังของลิเวอร์พูล และสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ช่วยให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ยิงลงในเขตโทษเพื่อเทียบคะแนนใหม่ที่ 3-3 

ในนาทีที่ 120+1 เกมนี้จะต้องถูกตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ แต่ก่อนที่นั้นจะเกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกแซงความเป็นไปได้ 4-3 เมื่อการ์นาโช่ ลากบอลขึ้นมาแล้วส่งให้กับ อาหมัด ดิยัลโล่ ที่ซัดผ่านมือของเคลเลเฮอร์ เข้าไปในเป้าหมาย เป็นการพลิกเกมที่น่าประทับใจและทำให้แฟนบอลผีแดงเฮลั่นกันทั่วสนาม 

ลิเวอร์พูล แมนยู
ช่วงเวลาที่เหลือในการแข่งขันไม่มีประตูเพิ่มเติม จึงส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นผู้ชนะในเกมนี้ 4-3 และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพ 2023/24 

ช่วงเวลาที่เหลือในการแข่งขันไม่มีประตูเพิ่มเติม จึงส่งผลให้ แมนเชสเตอร ยูไนเต็ด เป็นผู้ชนะในเกมนี้ 4-3 และผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพ 2023/24 

 

รายชื่อผู้เล่นที่เข้าสนามจริงๆ ในเกมนี้มีดังนี้ 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: 

  1. อังเดร โอนาน่า (ผู้รักษาประตู) 
  2. ดิโอโก้ ดาโลต์ 
  3. ราฟาแอล วาราน 
  4. วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ 
  5. อารอน วาน บิสซาก้า 
  6. สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ 
  7. ค็อบบี้ ไมนู 
  8. บรูโน่ แฟร์นันด์ส 
  9. มาร์คัส แรชฟอร์ด 
  10. อเลฮานโดร การ์นาโช่ 
  11. ราสมุส ฮอยลุนด์ 

ลิเวอร์พูล: 

  1. ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ผู้รักษาประตู) 
  2. โจ โกเมซ 
  3. เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค 
  4. จาร์เรลล์ ควอนซาห์ 
  5. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 
  6. วาตารุ เอ็นโด 
  7. โดมินิค โซบอสซ์ไล 
  8. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ 
  9. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 
  10. ดาร์วิน นูนเญซ 
  11. หลุยส์ ดิอาซ 

ดูการแข่งขันถ่ายทอดสด ผลบอลสด ได้ที่นี่ ทุกแมตท์การแข่งขัน อย่าพลาดที่จะได้รับชมถ่ายทอดบอลสดภาพชัดระดับ HD ก่อนใคร เหมือนอยู่ข้างสนาม ฟรี ไม่มีค่าเข้าชม และหากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์เดิมพันเกมออนไลน์ที่หน้าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย เว็บใหญ่ ทุนหนา Ole777 คลิ๊กที่นี่ สมัครเลย การันตรีจากสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *